มาทำความรู้จัก Functional Training กัน…….

in บทความเพื่อสุขภาพและการออกกำลังกาย

จุดประสงค์ของการออกกำลังกายของแต่ละคนแตกต่างกันไป บางคนอยากผอม อยากหุ่นดีมีกล้าม อยากควบคุมน้ำหนักและบางคนก็เอาไว้คลายเครียด เวลาเหงื่อออกมากๆ ก็จะทำให้หลับสบายขึ้น ถึงแม้จุดประสงค์จะต่างกัน แต่ความหมายเดียวกันคือ “สุขภาพ”

เรามีการออกกำลังกายอีกรูปแบบหนึ่งมาฝากคือ Functional Training เป็นการฝึกการพัฒนาร่างกายเพื่อให้ตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของกิจกรรมในชีวิตประจำวันให้ดีขึ้น ช่วยปรับท่าทางของการยืน การเดิน ให้ดูดี และทำให้การเดินขึ้นลงบันไดของคุณดูสตรอง ไม่เหนื่อยง่ายและช่วยแก้อาการ office syndrome ได้ด้วยเช่นกัน


อีกทั้งยังช่วยฝึกระบบประสาทและการสั่งงานของสมองอีกด้วย ไม่ใช่แค่การพัฒนาเฉพาะส่วน อย่างการยกน้ำหนักทั่วไป แต่การออกกำลังกายแบบ Functional Training เป็นการเคลื่อนไหวได้แบบหลายทิศทาง โดยหลักสำคัญ คือการประยุกต์การออกกำลังกายแบบองค์รวม คือ ทำให้กล้ามเนื้อทุกส่วนทำงานอย่างสัมพันธ์กันมากกว่าการฝึกหรือออกกำลังกายโดยแยกกล้ามเนื้อออกเป็นส่วนๆ


ประโยชน์ของ Funtional Training

1. เพิ่มศักยภาพในการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวัน เช่น เดิน วิ่ง ยก งอ บิด หัน ยืน ออกตัว ฯลฯ

2. ช่วยพัฒนาความแข็งแรงและความทนทาน เสริมสร้างกล้ามเนื้อในส่วนต่างๆ ของร่างกาย

3. ช่วยพัฒนาข้อต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4. ช่วยพัฒนาระบบประสาทและการสั่งการของสมอง

5. ป้องกัน/ลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บ

6. ป้องกัน/ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน เป็นต้น

7. เพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกายได้อย่างเหมาะสม

8. ช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกายได้เป็นอย่างดี

ขอบคุณที่มาของภาพ https://sites.google.com/site/bntest0011/tha-xxk-kalang-kay


แต่การออกกำลังกายแบบ Functional training ยังได้ประโยชน์อย่างอื่นร่วมด้วย ซึ่งถือว่าอยู่ในกลุ่มสร้างทักษะความชำนาญ (Skill-related fitness) ที่เกี่ยวข้องทั้งการใช้ชีวิตประจำวันและและช่วยเพิ่มความสามารถในการเล่นกีฬา ได้แก่
– การทำงานที่ประสานกันของส่วนต่างๆ ของร่างกาย
– การทรงตัว
– ความเร็ว
– พละกำลัง
– ปฏิกิริยาตอบสนอง


ตัวอย่างการออกกำลังกายแบบ Funtional Training

ขอบคุณคลิป YouTube : Obi Vincent
ขอบคุณคลิป YouTube : Mickywoo Fitnessgirls

ถึงแม้ว่าการออกกำลังกายแบบ Funtional Training จะบรรลุเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วและเห็นผลชัดเจน แต่ผู้ฝึกจะต้องนึกถึงความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ระบบไหลเวียนของโลหิต รวมไปถึงอาการบาดเจ็บต่างๆ ก่อนทำการฝึก เพราะการออกกำลังกายแนวนี้เป็นการฝึกแบบ Muti Joint โดยการฝึกออกแรงพร้อมกันหลายๆ ข้อต่อ และมีการเคลื่อนไหวร่างกายมากกว่าการเล่นเวทเทรนนิ่งทั่วไป


เป้าหมายหลักของ Functional Training คือการพัฒนาการด้านความแข็งแรงไปแปลงเป็นการเสริมสร้างสมรรถภาพร่างกาย โดยอาศัยระบบประสาทร่วมกับกล้ามเนื้อทั้งหมด ซึ่งการฝึกนี้จะช่วยให้ผู้ที่ฝึกได้ใช้ความสามารถนี้ในชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มรูปแบบ และช่วยลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บให้น้อยลง


ไม่ว่าจะออกกำลังกายในรูปแบบไหน ความพร้อมของร่างกายมีส่วนสำคัญในการออกกำลังกายเป็นอย่างมาก ดังนั้นทุกคนจะต้องใส่ใจดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมอและเช็คความพร้อมการออกกำลังกายด้วยนะคะ


ที่มา : https://sites.google.com/site/bntest0011/home/prayochn-khxng-kar-fuk-functional-training
https://society.wefitnesssociety.com/performance-functional-training

ใส่ความเห็น