สบายดีอยู่หรือเปล่า หรือ เราต้องการลา ลา พัก ร้อน ลองมาเช็คกัน………..
ในวันที่เราตั้งคำถามกับตัวเองว่าจิตใจของเรายังสบายดีอยู่หรือเปล่า?? ในเวลา 24 ชั่วโมง ทุกคนจะได้รับเท่าๆ กัน ในแต่ละคนจัดการแบ่งปันเวลาไปเติมเต็มความสุขให้กับชีวิตกันอย่างไรบ้าง บางคนอาจจะเติมเต็มชีวิตในการหาความสุขให้กับชีวิตอย่างเติมที่ หรือบางคนอาจจะเลือกใช้ชีวิตให้กับการทำงาน
ท่ามกลางความตึงเครียดจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสังคม เราทุกคนจะได้เผชิญหน้ากับสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าเรื่องนั้นจะมีผลที่ดีต่อใจ หรือ หรือส่งผลกระทบต่อจิตใจ จนบางทีก็อ่อนแอเกินกว่าจะรับไหว เพราะในหลักของความเป็นจริงไม่มีใครที่จะเข็มแข็งไปได้ตลอด แล้วแบบไหนกันนะ ที่จะเป็นสัญญาณจากจิตใจส่งมาให้เรารู้ตัวว่า ถึงเวลาที่เราต้องลาพักร้อนเพื่อกลับมาเยียวยาจิตใจตัวเอง
– เบื่อทุกสิ่งรอบตัว มองท้องฟ้าไม่สดใสอีกต่อไป เริ่มตื่นมาพร้อมคำถามว่า “วันนี้ลาป่วยดีไหม” “ไม่อยากไปทำงานเลย” หรือแม้กระทั่งฟังเพลงโปรดไม่สนุกเหมือนที่เคยเป็น อยากใช้ชีวิตแบบนอนอยู่เฉยๆ
– นอนหลับยากกว่าเดิม จากที่เคยหัวถึงหมอนปั๊บ ก็หลับเป็นตายยาวๆ ไปถึงเช้า กลายเป็นต้องข่มตานอนให้หลับในทุกๆ คืน ต้องฝืนสะกดจิตตัวเองให้นอนอยู่บ่อยครั้ง หรือบางทีก็ไปหลับเอาตอนใกล้สว่าง พาลให้การใช้ชีวิตตอนกลางวันยากขึ้นไปอีก
– สุขภาพอ่อนแอ เจ็บป่วยง่ายแบบไม่เคยเป็นมาก่อน ร่างกายเริ่มประท้วงด้วยอาการกรดไหลย้อน ท้องอืด ท้องเฟ้อ ปวดหัวอยู่บ่อยๆ ภูมิคุ้มกันลดลงจนต้องเข้า-ออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น บางคนก็เป็นโรคแปลกๆ แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หรือมีอาการเป็นตุ่มขึ้นตามตัว
– ความคล่องแคล่วได้หายไป แต่ก่อนต่อให้มีประชุมเช้าแค่ไหนก็พร้อมตื่นขึ้นมาลุย ตอนทำงานก็ขยันแแบบสุดๆ สามารถทำงานหลายๆ อย่างได้อย่างมือโปร ตอนนี้กลายเป็นแค่จะปลุกตัวเองให้ลุกจากเตียงก็ยากแล้ว
นี่แหละ❗❗ คือสัญญาณที่ฟ้องว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องกลับมาดูแลตัวเอง เพราะเรื่องจิตใจถ้าไม่ไหวอย่าฝืน หาเวลาเยียวยาจิตใจตัวเองในแบบฉบับของเราได้ ด้วยวันหยุดพักร้อน
ทริปเที่ยวสไตล์ social detox
บอกลาการอ่านไลน์และเช็ก Email เรื่องงานแล้วเก็บกระเป๋าไปเที่ยวแบบปิด Notification ตัดการสื่อสารออกไปให้หมด วางมือถือให้ห่างมือ พักร้อนครั้งนี้อย่าสนใจว่าจะมี Notification อะไรมาทำลายช่วงเวลาพักของเรา แต่ถ้าใครยังตัดใจจากโลกออนไลน์ไม่ได้ อาจจะจัดเวลาในการเช็กข้อมูลเป็นแค่ตอนเช้ากับตอนเย็นก็พอ การทำแบบนี้จะเป็นการช่วยเยียวยาในเรื่องของความวิตกกังวล ช่วยลดภาวะความกระวนกระวาย ความอ่อนเพลีย และความหงุดหงิดได้ดี
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
ให้อาหารเติมเต็มความสุข
เพราะการกินคือการเติมเต็มความสุขแบบง่ายๆ แต่เข้าถึงได้ทุกคน ถึงได้มีประโยคที่ว่า “เหนื่อยมาจากไหนให้อาหารเยียวยาจิตใจได้เสมอ” วันลาพักร้อนรอบนี้อาจจะกลายเป็นวันที่เราจะได้กินของดี แบบที่อยากกิน หรือไปตามล่าร้านอร่อยตามรีวิว ตามที่ใจต้องการ Check in ที่คาเฟ่สวยๆ คุณจะได้เพลินจนลืมความเครียดไปเลย
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
ให้เวลากับตัวเอง
สำหรับใครที่ต้องการเบรกชีวิตตัวเองให้ช้าลง ได้พอมีเวลามาดูแลตัวเองบ้าง ก็จงทำมันในลาพักร้อนครั้งนี้เลย ได้เวลาที่จะทำสิ่งที่เคยคิดไว้ให้กลายเป็นจริง อย่างการจัดห้องใหม่เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ การดูหนังใน Netflix ให้คุ้มกับค่ารายเดือน รวมไปถึงการได้นอนหลับอย่างเพียงพอแบบเต็มอิ่ม นอนเผื่อเอาไว้เมื่อต้องกลับไปทำงาน วิธีนี้จะเป็นวิธีการเยียวยาในรูปแบบเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายของชีวิตคุณ
ขอบคุณรูปภาพ:https://th.time4invest.com/make-money-side-gigs-get-paid-to-watch-videos-and-tv-id5522
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
ถ้าจะเปรียบชีวิตการทำงานก็คงคล้ายกับนักวิ่งมาราธอน ต้องวิ่งต่อเนื่องในระยะทางไกล ที่พอวิ่งไปได้สักพัก มักมีอาการเหนื่อยล้าและต้องแวะตามจุดพักเพื่อดื่มน้ำ ให้สามารถวิ่งต่อไปได้อีก ชีวิตของคนทำงานก็เช่นกัน ใครที่วิ่งมาสักพักจนขาเริ่มล้าไปต่อไม่ไหวแล้ว ก็ลองแวะพักดูก่อน เติมพลังกาย เสริมพลังใจให้เต็มที่ แล้วออกวิ่งต่อเพื่อการถึงยังเป้าหมายแบบปลอดภัย และเต็มไปด้วยความสุข
ที่มา : https://www.krungsri.com/bank/th/plearn-plearn/its-okay.html
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น