สมัยนี้หลายคนหันมาดูแลสุขภาพด้วยการออกกำลังกายแบบ เวท เทรนนิ่ง (Weight Training) กันมากขึ้น การฝึกความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อแบบนี้จะช่วยป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน โรคอ้วน และส่งผลดีต่อระบบเผาผลาญของร่างกาย แถมยังทำให้รูปร่างดูฟิตแอนด์เฟิร์ม จะแต่งตัวอะไรก็เข้าท่า ดูดีไปเสียหมด แต่จะออกกำลังกายทั้งที ก็ควรศึกษาให้ถูกวิธี เพื่อที่จะได้ไม่เสียแรง เสียเวลาเปล่า

1. หาความรู้ด้วยตัวเองเป็นเรื่องดีที่สุด

เพราะจะทำให้เข้าใจวิธีการออกกำลังกายอย่างถ่องแท้มากกว่าการทำตามโปรแกรมของเทรนเนอร์อย่างขาดความเข้าใจ เพราะพอถึงเวลาไม่มีเทรนเนอร์ ก็ไปกันไม่เป็นเลยทีเดียว ยิ่งไปกว่านั้น คุณจะได้รู้ว่าท่าฝึกแบบไหนหรือตารางการฝึกแบบใดที่เหมาะกับคุณมากที่สุด หากมีเวลาก็ควรศึกษาด้วยตัวเองจะดีกว่า ทั้งจากตำราและสอบถามจากผู้มีประสบการณ์

2. เลือกกินอย่างฉลาด

ช่วงระยะเวลาที่ออกกำลังกาย ระบบเผาผลาญจะทำงานดีขึ้น ทำให้หิวง่ายและกินบ่อยขึ้น ดังนั้น ต้องระมัดระวังเรื่องอาหารการกิน โดยเน้นโปรตีนที่ได้จากเนื้อสัตว์ ไข่ นม เป็นหลัก หลีกเลี่ยงของทอด อาหารมัน หรือของที่มีไขมันสูง ซึ่งแทนที่จะเสริมสร้างกล้ามเนื้อกลายเป็นเผละอ้วนแทน อาจดูพวกอาหารเสริมที่มีความจำเป็นสำหรับคนที่เริ่มเล่นอย่างจริงจังมากขึ้น ก็จะช่วยกระตุ้นการสร้างกล้ามเนื้อต่อไปได้

3. วอร์มอัพ

เช่นเดียวกับกีฬาอื่นๆ การเล่นเวทก็จำเป็นต้องอุ่นเครื่องร่างกายให้ร้อน เริ่มต้นที่การเดินบนลู่วิ่งด้วยความเร็วปานกลางประมาณ 5-10 นาที เพื่อกระตุ้นการเต้นของหัวใจ จากนั้นจึงยืดกล้ามเนื้อทุกส่วน (แม้ว่าจะไม่ได้ยกเวทเพื่อกล้ามเนื้อส่วนนั้นๆ ก็ตาม) แล้วจึงเข้าสู่ช่วงของการยกเวท เมื่อเสร็จแล้วก็คูลดาวน์ด้วยวิธีการเดียวกับการวอร์มอัพ

4. มีระเบียบวินัย

ต่อให้มีข้อมูลแน่นปึ้กแค่ไหน แต่ถ้าขาดความสม่ำเสมอในการออกกำลัง (สัปดาห์หนึ่งอย่างน้อย 3 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที อย่างต่ำ) การพักผ่อนที่เพียงพอ และวินัยในการกินก็เท่ากับว่าสิ่งที่คุณทำมาทั้งหมดสูญเปล่า ถ้าขี้เกียจนักก็หาทางสร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเองไปออกกำลังกาย เช่น สมัครเข้ายิมแพงๆ จะได้เสียดายเงินถ้าไม่ได้ไป หรือหาเพื่อนไปเล่นด้วยเป็นต้น

ขอบคุณที่มา หนังสือพิมพ์ M2F ฉบับวันที่ 21 พ.ย. 54